หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Zodiac Cafe’ : Chapter 1

Title: Zodiac Café’
Fandom: XIII Zodiac
Author: Scuro-Luce (tonpalm)
Rate: PG….มั้ง
Warning1: ตัวละครในที่นี้มีอายุตั้งแต่ 20 ขึ้นไป
Warning2: ไม่เกี่ยวกับฉบับออริจินัลแต่อย่างใด และ..อาจวายนะเคอะ โฮะๆๆๆๆ *โดนตบ*

Chapter 1: Beginning

“Zodiac Café”

รามีเอล เรมีอาเงยหน้ามองชื่อคาเฟ่เล็กๆ ตรงหน้าซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่ามาหยุดอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มันเป็นร้าน ที่เขาลงความเห็นว่าแปลก ทั้งที่อาคารบ้านเรือนรอบข้างเป็นตึกสูงปูนซีเมนต์ กันหมด แต่คาเฟ่แห่งนี้เป็นอาคารสองชั้นที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ตั้งแต่ บันไดเล็กๆ สำหรับเดินขึ้นร้าน กำแพง ประตูร้านที่มีหน้าต่างเล็กๆ หกบานใสแจ๋วพอให้มองเห็นบรรยากาศข้างใน หน้าต่างไม้บานใหญ่สลักกรอบสวยงาม ด้านข้างและชั้นสอง ตลอดจนหลังคา… มันดูแปลกประหลาดไม่เข้ากับอาคารรอบข้าง เอาเสียเลย …ราวกับต้นไม้ขึ้นในดงคอนกรีต

นัยน์ตาสีลาเวนเดอร์หันไปมองบรรยากาศรอบๆ ตัวก็พบว่าตัวเองยืนอยู่บนถนนที่ไม่คุ้นเคย ร่างสูงค่อนข้างแน่ใจว่าเขาไม่ เคยเดินผ่านแถวนี้มาก่อน และก็แน่ใจว่ามันจะคงห่างจากที่ทำงานของตนมาพอ สมควร อันที่จริง..ควรจะเรียกว่า ‘ที่ทำงานเก่า’ ซะมากกว่า เพราะมันเพิ่งจะกลายเป็นอดีตไปเมื่อตอนเก้าโมงเช้าที่ผ่านมานี้เอง

พิษของเศรษฐกิจอันฝืดเคืองทำให้บริษัทต่างๆ พากันปลดพนักงานออกเพื่อความอยู่รอด ในโลกของเศรษฐกิจที่ขึ้นๆ ลงๆ ลูกจ้างก็ได้แต่เป็นพวกรับกรรมเวลาบริษัทมีปัญหา แน่นอนว่าเขาเองก็เป็น หนึ่งในบรรดาลูกจ้างเหล่านั้นนั่นแหละ

เงินค่าจ้างล่วงหน้าสามเดือนที่เพิ่งได้มายังนิ่งสนิทอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทของเขาอยู่เลย

ชายหนุ่มถอนหายใจกับชะตากรรมของตัวเองทีเพิ่งจะได้ตำแหน่งเป็นคนว่างงานสดๆ ร้อนๆ

นี่เขาเดินเหม่อพาตัวเองมาอยู่ที่ส่วนไหนของเมืองกันนะเนี่ย

ลมหนาวพัดมาราวกับจะเตือนสติให้ออกจากเรื่องในอดีต เรือนผมยาวสีทองลอย ตามแรงลมอย่างไร้น้ำหนัก รามีเอลกอดอกกระชับเสื้อโค้ทของตนเพื่อหาความ อบอุ่น ก่อนจะเงยหน้ามองป้ายร้านคาเฟ่อีกครั้งอย่างนึกสงสัยในชื่อของมันว่า อะไรดลใจให้ เจ้าของร้านตั้งชื่อว่า ‘ราศี’ กันหนอ แต่สุดท้ายความสงสัยนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มพาร่างของตนก้าวไปยังบันได เล็กๆ เพื่อเปิดประตูเข้าไปในร้าน

เสียงกระดิ่งที่แขวนไว้เหนือประตูร้องทักทายเป็นสิ่งแรก ร่างกายรู้สึก ได้ถึงความอบอุ่นจากเตาผิงที่ติดไฟอยู่ ภายในร้านดูเหมือนคาเฟ่ทั่วไป มี โต๊ะเก้าอี้และบาร์เครื่องดื่มสำหรับลูกค้า ตรงหน้าเตาผิงมีโซฟายาวและ เก้าอี้โยกตัวหนึ่งวางอยู่ หลอดไฟนีออนสีส้มส่องสว่างอยู่บนเพดานทำให้คาเฟ่ แห่งนี้ดูดีอย่างเรียบๆ จนผู้มาเยือนนึกนิยมในใจ นึกขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างหลังจาก ตกงาน

นอกจากนั้นแล้วภายในร้านยังมีแกรนด์เปียโนหลังหนึ่งตั้งอยู่บนเวทีเตี้ยๆ ห่างจากเตาผิงไม่มากนัก  แต่สิ่งที่สะกิดใจรามีเอลมากที่สุดคือกระโจมเล็กๆ สีดำที่ตั้งอยู่ตรงมุมร้าน เขามองมันอย่างกังขาและได้แต่เก็บความสงสัยนั้น ไว้ในใจ

บางที…อาจจะใช้เก็บของอะไรก็ได้มั้ง

ความอบอุ่นภายในร้านทำให้เสื้อโค้ทไม่จำเป็นอีกต่อไป รามีเอลถอดมันออกแล้วพาดไว้ที่แขน ก่อนจะเดินไปนั่งยังบาร์เครื่องดื่ม

ข้างหลังบาร์ว่างเปล่าแต่มีเสียงทักขึ้นมาจากอีกทาง

“โซดิแอคคาเฟ่ยินดีต้อนรับ” พร้อมกับร่างหนึ่งผลักประตูเล็กหลังร้านออก มา เรือนผมยาวสีฟ้ารวบต่ำสะบัดไปมาตามการเคลื่อนไหว พร้อมกับดวงหน้าสวยหวาน ส่งยิ้มให้ทำให้เขาหน้าร้อนวูบ “ขอโทษที่ให้รอครับ คุณเป็นลูกค้ารายแรกของ วันเลยนะ”

รามีเอลส่งยิ้มให้เธอก่อนจะชะงัก… เมื่อกี้ ‘ครับ’ เหรอ?

“วันนี้อากาศหนาวกว่าทุกวันว่าไหมครับ” คุณบาร์เทนเดอร์เข้ามาประจำที่ หลังบาร์แล้วชวนคุยยิ้มๆ ลงหางเสียงด้วยคำๆ เดิมที่เขานึกว่าตัวเองหูฝาด “เดี๋ยวผมแขวนเสื้อโค้ทให้ครับ”

ชายหนุ่มส่งเสื้อให้เธอ… เอ่อ… เขา แล้วพิจารณาอีกฝ่ายระหว่างที่กำลังเดินไปแขวนเสื้อโค้ทไว้กับเสา เขามองตาม ร่างบอบบางนั่นไปอย่างอดไม่ได้ ใบหน้าออกหวานขนาดนั้น แถมยังรูปร่างบอบบาง อีกต่างหาก ไม่แปลกเลยที่จะถูกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผู้หญิง

ว่าแต่…ผู้ชายงั้นเรอะ

ให้ตายสิ นี่เขาไปใจเต้นกับผู้ชายได้ยังไงกัน!!

“มองอะไรอยู่หรือครับ”

รามีเอลสะดุ้งออกจากภวังค์ รู้สึกอับอายเมื่อเห็นสายตาอีกฝ่ายจ้องมองมา แล้วเอ่ยแก้ตัวอย่างตะกุกตะกักด้วยอารามตกใจ

“ปะ…เปล่าครับ ผมแค่มองไปเรื่อยๆ”

ถึงจะค่อนข้างแน่ใจว่ามันไม่มีแววโกรธเคือง แต่ชายหนุ่มมั่นใจว่าเห็น นัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้นไหวระริก แถมยังแย้มยิ้มที่มุมปากน้อยๆ มันทำให้รู้สึก หนาวเยือก ขึ้นมาอย่างไรชอบกลจึงเสหันไปมองภายในร้านแทน

“คุณ…” บาร์เทนเดอร์ หนุ่มเดินกลับมาประจำที่หลังบาร์อีกครั้ง นัยน์ตาสีฟ้ากระจ่างจ้องเขม็งมา ที่ลูกค้ารายแรกของวันราวกับจับพิรุธ คนถูกจ้องได้แต่กลืนน้ำลายในลำคอ “… เป็นผู้ชายเหรอ”

รามีเอลสะดุ้งขึ้นสุดตัว เมื่อกี้มัน…อะไรนะ? “คะ.. ครับ!?”

บริกรหนุ่มหน้าหวานกอดอก ยกมือข้างหนึ่งขึ้นท้าวคางอย่างครุ่นคิดพลาง พยักหน้าอย่างพออกพอใจ “ผู้ชายจริงๆ ด้วยสินะ เห็นคุณไว้ผมยาว ผมก็เลยนึกว่าเป็นผู้หญิงเสียอีก”

อะไรนะ… ผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ

เหมือนโดนเสียมารยาทอยู่อย่างไรอย่างนั้น

รามีเอลอ้าปากค้าง พอตั้งสติได้เขาก็ยกมือขึ้นขยี้เส้นผมยาวสีทองของตนเองเบาๆ

“ฟะ.. ฟังเหมือนคำชมเลยนะ แต่ว่าผมต่างหากที่นึกว่าคุณเป็นผู้หญิง”

ชายหนุ่มชะงัก… เพราะเผลอพูดความจริงออกไปด้วยความหงุดหงิด

เขาก็เสียมารยาทเหมือนกัน

“เอ่อ ขอโทษด้วยครับ”

คุณบาร์เทนเดอร์หัวเราะเบาๆ อย่างไม่ถือสา “ไม่เป็นไร สำหรับผมมันเป็นเรื่องปกติน่ะ ผมว่ามันน่าขำ มากกว่า จะรับอะไรดีครับ วันนี้ที่ร้านเรามีอาหารเช้าแบบอเมริกัน แล้วก็ซุปเห็ดร้อนๆ ด้วย”

น่าขำเหรอ… แต่เขาไม่ขำซักนิด  รามีเอลคิดในใจ “เอ่อ.. ขอลาเต้แก้วหนึ่ง แล้วก็อาหารเช้าแล้วกันครับ”

มีเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดมาจากหลังร้าน วินาทีต่อมาประตูบานคู่เล็กๆ หลังร้านก็ถูกผลักออกพร้อมกับร่างสูงของชายหนุ่มคนหนึ่ง

“วานีน มีลูกค้ามาเหรอ”

ชายคนนั้นทักทายบาร์เทนเดอร์ที่กำลังง่วนอยู่กับการทำกาแฟ เขาเป็นชาย ร่างสูงในชุดบริกร เส้นผมสีน้ำตาลยาวประบ่าถูกรวบไว้อย่างหลวมๆ ที่ต้นคอ นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงเหลือบมองลูกค้าคนเดียวในร้านก่อนจะชะงักไปเล็ก น้อย นัยน์ตาต่างสีสบกันครู่หนึ่ง ฝ่ายบริกรก็คลี่ยิ้มหวาน ยกมือปัดเส้นผม ที่ปรกหน้าออก

“ยินดีต้อนรับครับเลดี้ เช้านี้อากาศหนาวนะครับว่ามั้ย”

เคร้ง!

เสียงบาร์เทนเดอร์ร่างบางทำช้อนกาแฟหล่น ร่างของเขากำลังสั่นเพราะพยายามกลั้นเสียงหัวเราะ ส่วน ‘เลดี้’ กำลังอึ้งกิมกี่

‘เลดี้’

…เรอะ?

ไอ้ประโยคทักทายราวกับผู้ดีอังกฤษนั่นมันอะไร!? ไม่ใช่สิ! เขาเป็นผู้ชายนะ!!!

ระหว่างที่รามีเอลกำลังจะอ้าปากต่อว่า บาร์เทนเดอร์ที่ชื่อ ‘วานีน’ ก็พูดกลั้วหัวเราะขึ้นมาซะก่อน

“เลออส นายมาทำอาหารเช้าให้เลดี้หน่อยสิ หล่ิอนหิวจะตายอยู่แล้ว”

‘คนหิวจะตายอยู่แล้ว’ อ้าปากค้างเป็นรอบที่สองของวัน แล้วดอกกุหลาบดอกหนึ่งก็ยื่นมาตรงหน้าด้วย ฝีมือของบริกรอีกคน คนที่ชื่อเลออสกำลังส่งยิ้มหวานมาให้ เป็นรอยยิ้มที่รามีเอลปฏิเสธไม่ได้ว่ามันดูดีมากทีเดียว

แต่เขาไม่มีอารมณ์มานั่งชื่นชมมันหรอก!!

ไอ้นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงหวานเชื่อมนั่นมันอะไร!!

“สักครู่นะครับเลดี้ ผมจะรีบทำอาหารเช้าให้”

แล้วมันก็จับดอกกุหลาบนั่นยัดใส่มือเขา ก่อนจะหายหัวกลับเข้าไปหลังร้าน ตามเดิม ทิ้งให้ชายหนุ่มได้แต่มองตามไป… ก่อนจะตวัดสายตาไปยังอีกคนที่มี เอี่ยวในความเข้าใจผิดครั้งนี้แบบเต็มๆ ซึ่งกำลังมีเสียงหัวเราะเล็ดลอดออก มา

“ให้ตายสิ” บุคคลผู้ดำรงตำแหน่ง ‘เลดี้’ สบถเบาๆ

“ขอโทษนะครับ แต่ว่า… ฮ่าๆๆๆ” เขาหลุดหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจจนรามีเอลชักไม่แน่ใจแล้วว่าตัว เองคิดผิดหรือเปล่าที่มากินกาแฟร้านนี้ แล้วมันจะเจอเรื่องซวยกว่าการได้รับ ซองขาวไหม คุณบาร์เทนเดอร์ร่างบางหายใจเข้าลึกๆ สยบความขำก่อนจะพูดต่อ “เจ้านั่นน่ะมันเป็นจีบดะไปทั่ว ฮ่ะๆ ผมก็เลยอยากหาโอกาสแกล้งมันบ้าง ฮ่าๆๆๆ”

คนฟังกุมขมับ… ดันมาเจอคนขี้แกล้งซะได้

“คุณกำลังสงสัยว่าคิดผิดรึเปล่าที่เข้ามาร้านนี้…ใช่ไหม” เขาพูดอย่างรู้ทัน ระหว่างรินลาเต้ลงในแก้วกาแฟ

“ก็ประมาณนั้น”

กาแฟหอมกรุ่นถูกวางลงบนบาร์ กลิ่นหอมฟุ้งน่าชิมทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดี ขึ้นมาบ้าง หลังจากที่ตัวเองถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิงถึงสองครั้ง

“มีใครเคยบอกไหมว่าคุณดูเหมือนผู้หญิง” คุณบาร์เทนเดอร์ที่เว้นว่างจากการบริการเรียบร้อยแล้วเริ่มหันมานั่งคุยกับเขาอย่างคนกันเอง

ว่าแต่นี่มันเหมาะจะเป็นหัวข้อในการสร้างมนุษยสัมพันธ์กับลูกค้าหรือครับคุณ

“เริ่มมีตั้งแต่ผมขี้เกียจตัดผมแล้วก็ปล่อยให้มันยาวมาเรื่อยๆ คุณเองก็ เหมือนผู้หญิงนะครับ คุณวานีน”  คนถูกถามตอบอย่างหงุดหงิดระหว่างยกลาเต้ขึ้นจิบ ปล่อยให้รสนุ่มๆ ของมันไหลผ่านลำคอลงไป

“รสชาติเป็นยังไงบ้างครับ”
 
“ไม่แย่ครับ” ชายหนุ่มแกล้งตอบไปอย่างนั้น ทั้งที่จริงๆ มันอร่อยทีเดียว

บาร์เทนเดอร์หนุ่มตบหน้าผากตัวเองดังเผี๊ยะราวกับมีเรื่องกลุ่มใจมากมาย “ดูเหมือนผมจะโดนคุณเกลียดขี้หน้านะ”

“อาหารเช้ามาเสิร์ฟถึงโต๊ะแล้วครับ เลดี้!” มีเสียงดังออกมาจากหลังร้าน พร้อมกับกลิ่นอาหารเช้าโชยมาให้ชวนหิว

“แต่คุณอาจจะเกลียดผมน้อยกว่าอีกคน” คู่สนทนาขยิบตา

วินาทีต่อมา คุณบริกรที่ถูกกล่าวหาว่าจีบดะไปทั่วก็ใช้ไหล่ตัวเองดันบานประตูออกมา แล้ววางจานอาหารลงตรงหน้า  พร้อมน้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบ และแจกันที่ประดับดอกไม้อย่างสวยงาม เขาหันมาสบ สายตาหวานเชื่อมพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ทำให้คนมองขนลุกชันไปทั้งตัว

“บริการทุกระดับประทับใจครับ มีอะไรให้ผมรับใช้อีกไหมครับ มายเลดี้”

ไอ้หมอนี่…

เสือผู้หญิงชัดๆ!!

คุณบาร์เทนเดอร์ร่างบางหันหน้าไปกลั้นหัวเราะกับถ้วยชากาแฟ แล้วปล่อยให้คุณลูกค้าเผชิญชะตากรรมถูกจีบต่อไปอย่างเป็นพนักงานที่ดี

รามีเอลเริ่มกระแอมเบาๆ เมื่อหาโอกาสพูดกับเขาได้ “ก่อนอื่นก็ช่วยอย่าเรียกผมว่า ‘เลดี้’ แล้วกันครับ”

“ได้ครับ …หา” บริกรหนุ่มหน้าตาดีชะงักไปทันที ท่าทางอึ้งมากถึงกับถอยหลังไปก้าวหนึ่งเพื่อตั้งหลัก “อะไร…นะ……ครับ”

“ครับ อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ” รามีเอลสำทับอย่างขี้เกียจพูดใหม่ เขาเริ่มลงมือ หั่นไส้กรอกอวบอ้วนตรงหน้าแล้วจิ้มเข้าปากเพราะความหิว ขณะที่อีกคนกำลังมอง ลูกค้าของตนด้วยความอึ้ง

“ผู้ชาย…เรอะ?” เลออสพึมพำอยู่ครู่หนึ่งด้วยสีหน้ารับไม่ได้ ก่อนจะ เหลือบไปมองร่างของเพื่อนร่วมงานที่อยู่ไม่ไกล “วานีน นาย!! รู้อยู่แล้วใช่ มั้ย!!”

นี่เขา…จีบ….ผู้ชาย!!!!

“ฮ่าๆๆๆ” วานีนหัวเราะร่วนด้วยความสะใจ หันกลับมาใช้มือข้างหนึ่งปาด น้ำตาแห่งความขำ ทิ้ง เลออสกัดฟันกรอด มือไม้ของเขาสั่นด้วยความรู้สึกอยากฆาตกรรมเพื่อนร่วม งานเต็มแก่

“นายปล่อยให้ฉันจีบผู้ชายอยู่ได้ตั้งนานสองนาน!!”

“เอาน่าๆ”

“ทีหลังก็หัดดูให้ดีก่อนสิ” คนถูกจีบถือโอกาสตำหนิ คนฟังหน้าเสียชะงัก จากเพื่อนร่วมงานหันมามองหน้าคนพูดแทน สักพักเขาก็หน้าแดงด้วยความอับอาย ยก มือขึ้นกุมขมับเหมือนเป็นเด็กมีปัญหา กัดฟันพูดอย่างยากลำบาก

“ขอโทษนะครับ แต่…” นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงที่มองตรงไปยังลูกค้าหนุ่มมีทั้งร่้องรอยความอับ อายและไม่พอใจ เขาจะทนต่อสู้กับความอับอายตนเองไม่ไหวเลยตบบาร์เสียงดัง ลั่น สรรพนามเปลี่ยนไปตามอารมณ์ “ให้ตายสิ! แล้วทำไมบอกตั้งแต่แรกล่ะว่านาย เป็นผู้ชายน่ะ!!”

“ก็แล้วพวกนายเปิดโอกาสให้ฉันพูดไหมเล่า!”

อีกฝ่ายชะงัก แล้วทำท่าจะเถียง แต่ในที่สุดก็เถียงไม่ออก “เออๆๆ ฉันมันผิดเองต้องขอโทษนายด้วยแล้วกัน วันหลังจะระวังมากกว่านี้”

“นั่นหมายความว่าวันหลังนายจะจีบฉันอีกหรือไง”

“ใครจะไปทำ!” เลออสสวนทันทีแล้วพาเปลี่ยนเรื่องทันควัน “ว่าแต่ ปกติร้าน ฉันไม่มีคนมาเวลานี้ ท่าทางนายก็อายุพอๆ กับฉันนี่ ไม่ไปทำงานหรือไง”
 
“เฮ้ๆ นายจะไล่ลูกค้าหรือไง”

รามีเอลพูดพลางตักซุปเห็ดอุ่นๆ ในถ้วยทาน …ว่าแต่ว่า ประโยคนั้้นแทงใจเป็นบ้า

“ก็เปล่าหรอก แต่ก็น่าจะรู้ไว้บ้าง ฉันจะได้กะเวลารับลูกค้าถูก” บริกรหนุ่มพูดพลางใช้ศอกท้าวบาร์แล้วโน้มตัวลงมาคุย

“…”

“หน้านายเหมือนผู้หญิงจริงๆ สิพับผ่า”

คนฟังเงยหน้าขึ้นจะถ้วยซุปทันที “ขืนนายพูดคำว่า ผู้หญิงหรือเลดี้อีกคำเดียว ฉันต่อยนายแน่”

“คุณเพิ่งออกจากงานสินะ”

ชายหนุ่มสะดุ้งหันไปมองคุณบาร์เทนเดอร์ร่างบางทันที   ส่วนว่าที่ึคู่ชกตรงหน้ายกมือขึ้นกอดอกแล้วพยักหน้า พูดเองเออเองเสร็จ สรรพ “อืมๆ เข้าใจล่ะ นายโดนไล่ออกจากงานสินะ น่าสงสารจริงๆ”

“ไม่ได้โดนไล่ออกจากงานเฟ้ย!  แต่เศรษฐกิจมันไม่ดี บริษัทเลยต้องปลดพนักงานออกเท่านั้นเอง! อ๊ะ…”

…เผลอพูดออกไปแล้ว

รามีเอลถอนหายใจ รู้สึกหมดแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ ทั้งที่ได้กาแฟกับอาหารเช้าเติมพลังแล้วเชียว นัยน์ตาเหลือบมองบริกรเสือ ผู้หญิงอย่างคาดโทษ

“ว่าแต่…คุณรู้ได้ไงว่าผมเพิ่งออกจากงานมา”

“เผอิญผมเจอซองขาวในเสื้อโค้ทคุณน่ะ” คนถูกถามหันมาตอบหน้าระรื่นพร้อมกับชูซองสีขาวในมือให้ดูเป็นหลักฐาน

“อย่าเที่ยวค้นสมบัติของคนอื่นเขาตามในชอบสิเว้ย!!!” รามีเอลลุกขึ้นโวย รู้สึกมึนหัวเต็มกำลัง

คิดผิด… คิดผิด… ต้องคิดผิดแน่ๆ ที่เข้าร้านนี้!!!

“ผมเปล่านา พอดีมันหล่นตอนคุณส่งโค้ทให้ผมน่ะ”

“แล้วก็เปิดอ่านด้วยใช่มั้ยล่ะ!”

“แหม โชคร้ายจริงๆ แฮะ ขอให้หาใหม่ให้ได้เร็วๆ ล่ะ”

นัยน์ตาสีลาเวนเดอร์วาวโรจน์

ไอ้วาจาดูถูกดูแคลนนั่นมันอะไรฟะ!!

“เหมือนนายจะอยากมีเรื่องกับฉันนะ”

“โฮ่… ได้เสมออยู่แล้ว”

“นายสองคนนี่ดูเข้ากันดีนะ มาทำงานที่ร้านนี้มั้ยล่ะ” จู่ๆ คุณบาร์เทนเดอร์ร่างบางก็ออกปากชวนคนกำลังตกงาน ทำให้คู่มวยที่กำลังจะเกิด ขึ้นชะงักกึก วานีนยิ้ม “กำลังขาดคนอยู่น่ะ”

“เฮ้ๆ ที่พูดว่าเข้ากันได้ดีเนี่ย นายเอาอะไรมองไม่ทราบ แล้วร้านเรามันขาดคนตอนไหน”

เป็นครั้งแรกที่รามีเอลเข้าข้างไอ้เสือผู้หญิงนี่

“ก็เจ้าพวกนั้นเวลามันว่างมาที่้ร้านทุกวันที่ไหนเล่า เวลาคนเข้าร้าน เยอะๆ นายกับฉันก็วิ่งวุ่นเป็นหนูติดจั่นกันทุกที ให้รามีเอลช่วยนั่นแหละดีแล้ว”

ชายหนุ่มผมทองขมวดคิ้วมุ่น …นี่เขายังไม่ได้แนะนำตัวเลยนะ

“ก็พอดีบัตรพนักงานของคุณมันหล่นมาพร้อมกับซองขาวน่ะครับ คุณรามีเอล เรมีอา” อีกฝ่ายตอบให้ราวกับรู้ทันความคิด แถมยังเรียกชื่อซะเต็มยศ

…แน่ใจนะว่ามันหล่นลงมาเองน่ะ!!

“ถึงงั้นก็เหอะ แต่จะให้เจ้านี่มาทำงานที่ร้านเราเนี่ยนะ” เลออสติงด้วยอคติส่วนตัว เมื่อกี้เขาเพิงจีบไอ้บ้านี่ไป ความอับอายยังไม่ จางหาย อยู่ๆ ก็จะลากมันมาร่วมงานด้วยกันเนี่ยนะ

ไม่มีทาง!!

ทว่าประโยคนั้นทำเอาคนฟังเส้นเลือดปูดขึ้นมาทีเดียว

“ถ้าฉันจะมาทำงานที่นี่แล้วมันจะทำไมไม่ทราบ นายเป็นเจ้าของร้านหรือไงถึงห้ามฉันได้”

รามีเอลเริ่มท้าวบาร์ชะโงกหน้าไปหาเรื่องเจ้าบริกรปากร้ายบ้าง คนถูกหา เรื่องได้ฟังก็ขยับ ยิ้ม เอื้อมมือข้างหนึ่งมาแตะบ่า พร้อมกับเคลื่อนใบหน้าของตนเข้ามา ใกล้ ร่างบางชะงักจะถอยห่างทว่ามือแข็งแรงนั้นกลับออกแรงบีบเขาไม่ให้ผละ ออก ก่อนจะใช้นิ้วชี้ของมืออีกข้างมาเกี่ยวเส้นผมสีทองของเขาไปม้วนเล่น

“จะบอกอะไรให้นะครับคุณลูกค้า… ฉันเนี่ยแหละเจ้าของร้าน!!!”

“ห๊ะ…!” ชายหนุ่มอุทานอย่างไม่อยากเชื่อหู… ไอ้หมอเนี่ยนะเจ้าของร้าน!

ปึ้ก!! เสียงฝ่ามือมนุษย์กระทบเข้ากลางหลังท่านเจ้าของร้านอย่างแรงด้วย น้ำมือ บาร์เทนเดอร์หน้าสวยที่ยืนอยู่เบื้องหลัง แรงมากจนคุณเสือผู้หญิงจุกจนพูด ไม่ออก เจ้าของใบหน้าสวยคลี่ยิ้มหวานจัดจนทำให้คนมองหนาวเยือกไปถึงไข สันหลัง เห็นแววอำมหิตอยู่รำไร

“แล้วถ้าฉันจะรับรามีเอลเข้ามาทำงาน นายมีอะไรขัดข้องกับหุ้นส่วนรายใหญ่อย่างฉันงั้นหรือ…เลออส เมรูิอา”

“อ่า…” เลออสพูดไม่ออก แต่คนที่อ้างว่าเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของร้านนี้ก็หันกลับไปยังรามีเอลด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะซื่อ

“คุณเจ้าของร้านเค้าไม่มีปัญหาแล้วล่ะ”

ร่างบางมองหน้าคนที่ว่า

…มันใช่อย่างนั้นซะที่ไหนกันเล่า

“มาเถอะน่า ลองงานสักวันก็ไม่เห็นจะเป็นไร ไหนๆ วันนี้ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วไม่ใช่หรือ”

เขาถอนหายใจ และได้แต่ปล่อยให้คนหน้าสวยลากตนเองเข้าไปหลังร้านในที่สุด

-To be Continued-

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น